เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรม The Hotel Brussels โดยมีนางกาญจนา ภัทรโชค เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และมีนาย Jeroen Cooreman รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเบลเยียมดูแลกิจการความสัมพันธ์ทวิภาคี และนาย Stefano Sannino เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป เป็นแขกเกียรติยศ ร่วมกล่าวด้วย หัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทยในกรุงบรัสเซลส์ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตและทีมประเทศไทย พร้อมด้วยคู่สมรส คณะทูตานุทูต บุคคลสำคัญจากภาครัฐ เอกชน วิชาการ และประชาสังคมเบลเยียม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป และองค์การระหว่างประเทศที่มีสำนักงานในกรุงบรัสเซลส์ เข้าร่วมประมาณ 280 คน
เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ ได้กล่าวถึงความสำคัญของวันที่ 5 ธันวาคม ต่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ไทยและเบลเยียมมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมายาวนานกว่า 156 ปี นับตั้งแต่การลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์ เมี่อปี ค.ศ. 1868 ปัจจุบันทั้งสองประเทศได้ขยายความร่วมมือในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน และความร่วมมือระดับประชาชน และยินดีที่การบินได้กลับมาเปิดเที่ยวบินตรงทุกวัน เส้นทางกรุงเทพฯ-กรุงบรัสเซลส์ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ไทย-สหภาพยุโรป มีพลวัตที่ดี โดยทั้งสองฝ่ายได้ให้ความเห็นชอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (PCA) ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการขยายความร่วมมือทั้งในการเมือง ด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และสังคม และอยู่ระหว่างการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-อียู
นาย Cooreman แสดงความยินดีในโอกาสวันชาติไทย และยินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-เบลเยียมแน่นแฟ้น โดยปีนี้ นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้พบหารือทวิภาคีในห้วงการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจําปี 2567 ที่เมืองดาวอส สหพันธรัฐสวิส และทั้งสองฝ่ายได้จัดการประชุมหารือเชิงนโยบายไทย-เบลเยียม ครั้งที่ 2 ที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ฝ่ายเบลเยียมยินดีที่การบินไทยกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงทุกวันเส้นทางกรุงเทพฯ-กรุงบรัสเซลส์ สะท้อนถึงความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน และจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างไทย-เบลเยียมด้วย
นาย Sannino แสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าว ไทยกับสหภาพยุโรปมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดมายาวนาน มีค่านิยมร่วมกัน และกรอบ PCA จะยกระดับความร่วมมือระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปอย่างรอบด้าน ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพที่จะร่วมมือกันในหลายด้าน รวมถึงการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-อียู ตลอดจนความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและความเชื่อมโยงระดับประชาชนด้วย อีกทัังยังกล่าวชื่นชมสังคมไทยที่เปิดกว้าง โดยไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมแล้ว
กิจกรรมภายในงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสำนักงานทีมประเทศไทยทุกสำนักงานโดยสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป การท่องเที่ยวแห่งประเทศ สำนักงานกรุงปารีส และการบินไทย ยังได้ร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์ Thai Select สินค้าเกษตร การท่องเที่ยวไทย และให้ข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินตรงทุกวัน เส้นทางกรุงเทพฯ-กรุงบรัสเซลส์ของการบินไทยด้วย
สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้นำเสนอเสน่ห์ทางวัฒนธรรมไทยผ่านการแสดงนาฏศิลป์ไทย โดยได้เชิญคุณปัทมา ตันสกุล และลูกสาวนางสาวอั้งเปาวนิลา ตันสกุล มาบรรเลงเครื่องดนตรีไทย (ระนาดและฉิ่ง) เพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่ง การฟ้อนมาลัย และการรำบายศรีสู่ขวัญ นอกจากนี้ วงดนตรีเครื่องสายสี่ชิ้น String Quartet ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของนักเรียนและศิษย์เก่าที่มีน้องนักเรียนไทยและต่างชาติของสถาบันการดนตรี Institut Royal Supérieur de Musique et de Pédagogie เมือง Namur บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงชาติเบลเยียม และเพลงอียู รวมทั้งเพลงพระราชนิพนธ์และไทยคลาสสิค ตลอดจนการแสดงมวยไทยโดยนักมวยชาวเบลเยียมจากค่ายมวยมหานคร เมือง Ghent เบลเยียม ด้วย
บรรยากาศงานเลี้ยงรับรองวันชาติ สนุกสนาน มีชีวิตชีวา ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสเอกลักษณ์ความเป็นไทยและน้ำใจไมตรีของไทย ขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมค่ะ