เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ ร่วมกับสำนักงานที่ปรึกษาด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ประจำสถานเอกอัครราชทูตฯ เป็นเจ้าภาพจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการวิจัยการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ (Memorandum of Understanding on Agricultural Research and Biotechnology) จำนวน 2 ฉบับแบบไฮบริด ระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) กับ Université catholique de Louvain (UCLouvain) และกับ Ghent University (UGent) เบลเยียม ณ ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยมีนางกาญจนา ภัทรโชค เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยมีนาย Adil Ennaji, International Cooperation and Legal Affairs Manager, Belgian Science Policy Office (Belspo) และ ผศ.ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการไบโอเทค เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมจากทั้งสองฝ่ายได้ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

 

บันทึกความเข้าใจฉบับใหม่นี้ ครอบคลุมระยะเวลา 4 ปี ระหว่างปี 2568–2572 จัดทำขึ้นเพื่อสานต่อความร่วมมือด้านการวิจัย การพัฒนาบุคลากร และการแลกเปลี่ยนนักวิจัยในสาขาเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ ภายหลังจากบันทึกข้อตกลงฉบับเดิมที่ลงนามในปี 2561 และ 2562 ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาไปเมื่อปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ

 

เอกอัครราชทูตฯ กล่าวเน้นย้ำบทบาทของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการส่งเสริม “การทูตเพื่อวิทยาศาสตร์” (Diplomacy for Science) ซึ่งเป็นกลไกเชื่อมโยงนักวิทยาศาสตร์และสถาบันวิจัยของทั้งสองประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและนวัตกรรมร่วมกัน โดยภายใต้ความร่วมมือกับทั้งสองมหาวิทยาลัยในระยะที่ผ่านมา ได้เกิดผลลัพธ์ทางวิชาการอย่างเป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือกับ UCLouvain มุ่งเน้นการวิจัยด้าน ราวิทยา (Mycology) โดยเฉพาะการศึกษาเชื้อรา arbuscular mycorrhizal fungi เพื่อพัฒนาเทคนิคและการจำแนกชนิดพันธุ์ การศึกษาความหลากหลายของเชื้อราในระบบนิเวศธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์มีอิทธิพล ตลอดจนการศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างพืชและเชื้อโรค (host–pathogen interactions) รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากเชื้อราเพื่อการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช การพัฒนา bioherbicide และการผลิตสารทุติยภูมิ (secondary metabolites) ขณะที่ความร่วมมือกับ Ghent University มุ่งเน้นด้าน food microbiology ครอบคลุมการค้นหาและจำแนกสายพันธุ์จุลินทรีย์ การประเมินสมบัติทางชีวภาพ การเพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพของอาหาร รวมถึง microbial biotechnology เพื่อพัฒนาส่วนประกอบชีวภาพ (bio-based ingredients) และกระบวนการผลิตอาหารที่ยั่งยืน

 

สถานเอกอัครราชทูตฯ เชื่อมั่นว่า การลงนามในบันทึกความเข้าใจครั้งนี้จะเป็นกรอบความร่วมมือระยะยาวที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการวิจัย เทคโนโลยีชีวภาพ และนวัตกรรมอาหารของประเทศไทย ตลอดจนเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือด้าน วิทยาศาสตร์และการทูต ระหว่างไทยกับเบลเยียมอย่างยั่งยืน